ศ. 2558 ผู้ใดฝ่าฝืนถือว่าทำผิดกฏหมายฐานละเมิดลิขสิทธิ์
และจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย.......................................................................................................................
ฐานรากแผ่& ฐานรากเสาเข็ม ใช้แบบไหนดี? มีลูกค้าถามมาโดยตลอดว่า ต่อเติมบ้าน / ทำบ้านใหม่ จะใช้ ฐานรากแผ่หรือเสาเข็มดี ก็เลยต้องซักถามกันซะยืดยาวเลย การที่จะเลือกใช้ฐานรากแบบไหนนั้น ตามหลักการแล้วนั้นต้องทำการเจาะสำรวจดิน หรือวิเคราะห์ข้อมูลดินว่าดินที่ก่อสร้างเป็นแบบไหน ดินเหนียว หรือทราย หรือดินดาน แต่ถ้าเป็นงานต่อเติมเล็กไม่ได้มีการเจาะสำรวจดินก็วิเคราะห์เคร่าๆก็ได้ จากนั้นก็มาดูน้ำหนักที่ลงตอม่อหรือฐานรากว่ามีมากน้อยแค่ไหน และต้องคำนึงการทำงานที่ยาก ง่ายด้วย ทางที่ดีที่สุดต้องปรึกษาวิศวกรโครงสร้าง เรามาดูฐานรากทีละชนิดกัน ว่ามีแบบไหนบ้าง
ฐานรากแผ่ หรือฐานรากวางบนดิน ( Shallow Foundation)
1. การพิจารณาเลือกใช้ฐานรากชนิดแผ่
1. 1 ชั้นดินที่ก่อสร้างสามารถรับน้ำหนักบรรทุกของอาคารได้ หากชั้นดินสามารถรับน้ำหนักบรรทุกที่กระทำได้ต่ำ ก็ควรใช้ฐานรากที่มีเสาเข็มดีกว่าเพราะการดำเนินก่อสร้างง่ายกว่าและประหยัดกว่า
1.
ฐานราก แผ่ บ้าน 2 ชั้น ไทยประยุกต์ร่วมสมัย
Review/บทความดีดี ของ งานก่อสร้าง
ผลงานก่อสร้างโครงการ ที่ผ่านมาของบริษัท ก่อสร้างบ้านหรูริมทะเลสาบ สมุทรสาคร คลิกเลยย!!!!! ก่อสร้างอพาร์ทเม้นท์ 4 ชั้น บางคูวัด คลิกเลย!!!!!! ก่อสร้างอพาร์ทเม้นท์ 2 ชั้น คุ้มเกล้า 21 คลิกเลย!!!!!! ก่อสร้างอพาร์ทเม้นท์ 2 ชั้น ฉลองกรุง 53 คลิกเลย!!!!!! รอยร้าวกับบ้านสวยสวย คลิกเลย!!!!!!!!! ก่อสร้างอพาร์ทเม้นท์ 3 ชั้น ลาดกระบัง คลิกเลย!!!!!! ก่อสร้างสำนักงานและพักอาศัย 5 ชั้น รามอินทรา 64 คลิก! ก่อสร้างและปรับปรุงอาคารพักอาศัยและสำนักงาน 4ชั้น ทาวน์อินทาวน์
ก่อสร้างบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ทรงไทยประยุกต์ หลายหลัง สามชัยกาฬสินธุิ
ก่อสร้างอาคารพักอาศัยและสำนักงาน 3 ชั้น หนองจอ ก
ทำอย่างไรไม่ให้ผู้รับเหมาโกง
กลัวผู้รับเหมาโกงไหม? เมื่อพูดถึงผู้รับเหมาก่อสร้าง หลายๆๆท่านคงจะสายหน้าหนี!!!
ระหว่างการตอกควรตรวจสอบดิ่งของเสาเข็มเป็นระยะๆ และระหว่างตอกควรสังเกตเชือกสลิงตอนที่ลูกตุ้มตกว่าหย่อนหรือป่าวเพื่อตรวจสอบระยะยกลูกตุ้ม
8. ควรหยุดตอกเมื่อปลายเสาเข็มส่วนแรกอยู่จากระดับดินประมาณ 30 ซม. เพื่อเตรียมเชื่อมต่อความยาว
9. ตรวจสอบรอยเชื่อมให้เคาะตะกรันเชื่
อมออกให้หมด หากพบว่ารอยเชื่อมยังไม่สมบูรณ์ให้ทำการเชื่อมซ้ำให้รอยเชื่อมเสมอกับผิวของเสาเข็ม ก่อนตอกต้นที่2 ให้ยกลูกตุ้มกระแทก 2-3 ครั้งแล้วตรวจสอบความสมบูรณ์ของรอยเชื่อมอีกครั้งหากไม่มีข้อบกพร่องให้ตอกต่อไปจนถึงระยะนับ Blow Count
10. เมื่อตอกเสาเข็มจนถึงระยะนับ Blow Count ให้เริ่มนับจำนวนครั้งที่ใช้ในการตอกเสาเข็มที่จมไปทุกๆช่วง 30 ซม. ตามที่ผู้ออกแบบกำหนด
11. กรณีตอกเสาเข็มจนเสมอระดับดินแล้วแต่ยังไม่ผ่านการนับ Blow Count ให้ถอดหมวกครอบเข็มออกแล้วติดตั้งหัวส่งเสาเข็มเพื่อตอกเข็มต่อให้ Blow Count ตามผู้ออกแบบกำหนด
12. ตรวจสอบ Last 10 blow เป็นการเทียบอัตราการทรุดตัวจากการตอกจำนวน10ครั้งจะกระทำซ้ำกันจำนวน 3 ครั้งตามขั้นตอนดังนี้
12. 1 ในกรณีที่เสาเข็มโผล่เหนือดินการวัดระยะ 10 ครั้งสุดท้ายได้โดยตรงจากทำเส้นไว้ที่เสาเข็ม แต่ถ้าใช้หัวส่งเสาเข็มต้องใช้อุปกรณ์ช่วยวัดการทรุดตัวเช่น ท่อPVC ค้ำยันระหว่างปั้นจั่นกับพื้นดินแล้วขีดเส้นอ้างอิงก่อตอกเข็ม
12.
กำลังจะสร้างบ้าน 2 ชั้น (มีวิศวะเขียนแบบ) บนดินที่ถมแล้วประมาณ 7 ปีค่ะ
ที่ดินอยู่ในเขตเมืองนครราชสีมา บริเวณโดยรอบเป็นบ้านพักอาศัย และส่วนราชการค่ะ
ขอสอบถามว่า
1. ฐานแผ่กับบ้าน 2 ชั้นแข็งแรงพอมั้ยคะ จะมีปัญหาในอนาคตหรือเปล่า
2. พอดีมีเพื่อนทักให้ลงเสาเข็มเลยจะดีกว่า จริงมั้ยคะ
3. ถ้าต้องการถมที่ดินสูงขึ้นอีกประมาณ 50 เซนติเมตร (ขุดดินวางฐานแผ่ลึกตามแบบ 1. 3 เมตร)
จะเท่ากับว่า ขุดลงไปในดินเก่าลึก 80 เซนติเมตร ดินใหม่ลึก 50 เซนติเมตร
จะมีผลกับความแข็งแรงของตัวบ้านมั้ยคะ ถ้ามีควรทำอย่างไรดีคะ
ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ฐานราก แผ่ บ้าน 2 ชั้น เขาใหญ่
เป็นฐานรากแบบตื้นและแผ่กว้าง เพื่อให้สามารถถ่ายน้ำหนักของอาคาร กระจายลงสู่พื้นดินได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้ดินสามารถรับน้ำหนักบรรทุกของอาคารได้โดยปลอดภัย
1. การพิจารณาเลือกใช้ฐานรากชนิดแผ่
1. 1 ชั้นดินที่ก่อสร้างสามารถรับน้ำหนักบรรทุกของอาคารได้ หากชั้นดินสามารถรับน้ำหนักบรรทุกที่กระทำได้ต่ำ ก็ควรใช้ฐานรากที่มีเสาเข็มดีกว่าเพราะการดำเนินก่อสร้างง่ายกว่าและประหยัดกว่า
1. 2 ถ้าเป็นอาคารที่มีน้ำหนักบรรทุกไม่มากนักหรือบ้านพักอาศัย หากพบว่าดินที่ใช้ก่อสร้างเป็นดินทราย สามารถใช้เครื่องสั่นสะเทือนกระแทกให้ดินที่จะวางฐานรากแน่นเสียก่อน จะสามารถใช้ฐานรากแบบแผ่ได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้
1. 3 ในกรณีที่ดินใต้ฐานรากเป็นลักษณะดินอ่อนไม่ควรใช้ฐานรากแผ่ ควรใช้ฐานรากที่มีเสาเข็มดีกว่าเพราะสามรถรับน้ำหนักได้ดีกว่า และลดการทรุดตัวเมื่อเวลาผ่านไป บางครั้งดินบางจุดแข็ง บางจุดอ่อน ซึ่งส่วนนี้ต้องระวังอาจเกิดการทรุดตัวที่ไม่เท่ากัน จะทำให้บ้านหรืออาคารพังทลายได้
2. การกำหนดความลึกของฐานราก
ความลึกของฐานรากแผ่ จะต้องพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายและความสะดวกในการก่อสร้างเป็นหลัก เพราะถ้าฐานรากมีความลึกมาก ๆ ทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการขุดดินและขั้นตอนการก่อสร้างจะทำได้ลำบาก โดยประมาณความลึกของฐานรากจากผิวดินควรน้อยกว่าหรือเท่ากับความกว้างของฐานรากนั้น ๆ อย่างไรก็ดีอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของดิน
3.
- 10 คำถามเกี่ยวกับโครงการ ฝากครรภ์ ฟรี สำหรับหญิงไทยที่ตั้งครรภ์ทุกคน
- ฐานราก แผ่ บ้าน 2 ชั้น สวยๆ
- ฐานราก แผ่ บ้าน 2 ชั้น โมเดิร์น
- ยาง นอก scoopy i ราคา
- ฐานราก แผ่ บ้าน 2 ชั้น สวย
ฐานราก แผ่ บ้าน 2 ชั้น สวยๆ
กรุงเทพฯหรือชั้นดินอ่อนใช้ 2 ตันต่อตารางเมตร
2. ภาคกลาง, ภาคเหนือ, ภาคอีสาน พื้นที่ทั่วไป ใช้ 8 ตันต่อตารางเมตร
3. ภาคตะวันออก, ภาคตะวันตก, ภาคใต้ ใช้ 10 ตันต่อตารางเมตร
4. บริเวณดินใกล้ภูเขาแข็งมากใช้ 12 ตันต่อตารางเมตร
ซึ่งตัวเลขดังกล่าวทำให้เราสามารถพิจารณาขนาดฐานรากแผ่ได้ เช่นพื้นที่ภาคตะวันออก ใช้ขนาดฐานราก 1 ตารางเมตร จะรับน้ำหนักที่ลงต่อม่อได้ 10 ตัน(ยังไม่รวมตัวคูณเพื่ิอความปลอดภัยนะครับ)
***โดยฐานรากแผ่ควรลึกอย่างน้อย 1 เมตร จากชั้นดินเดิมนะครับไม่ใช่ชั้นดินถม ถ้าอยู่แค่ชั้นดินถมก็เตรียมตัวทรุดได้เลยครับ***??? แล้วถ้าเป็นอาคารขนาดใหญ่ ที่มีชั้นดินแข็งอยู่ด้านบนล่ะจะใช้ฐานรากแผ่ได้ไหมครับ??? คำตอบคือได้ครับ!!! อย่าเข้าใจผิดครับว่าฐานรากแผ่รับน้ำหนักสู้ฐานรากเสาเข็มไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับข้อมูลชั้นดินและการออกแบบครับ นี่คือผล boring test(ไว้วันหน้าจะสอนวิธีดูข้อมูลนะครับ) ที่เอาผลมาใช้ออกแบบฐานรากแผ่ของอาคารสำนักงานธกส.
ขั้นตอนการทำฐานรากแผ่
3. 1 ขุดดินให้มีความลึก ขนาด และตำแหน่งของถูกต้องตามแบบก่อสร้างโดยใช้แรงงานคนหรือเครื่องจักร ในการขุดดินนั้นต้องเผื่อการบดอัดทรายหรือกรวด เทคอนกรีตหยาบ (lean concrete) เผื่อการเข้าแบบด้านข้าง ถ้าดินมีลักษณะอ่อนตัวเป็นดินเหลวเป็นโคลน ให้ขุดดินอ่อนออกจนหมดแล้วใช้ทรายถม หากดินไม่เหลวมากให้เทคอนกรีตหยาบเพื่อรองรับเหล็กเสริมที่จะทำฐานราก หรือออกแบบฐานรากให้สูงขึ้น ในกรณีที่ดินลื่นไถลอาจขุดดินให้มีความลาดเพื่อป้องกันดินพังทลาย หรือใช้แผ่นเหล็กหรือวัสดุอื่นที่สามารถนำมาตอกโดยรอบ เพื่อป้องกันดินพังทลายลงในขณะก่อสร้างฐานรากด้วย
3. 2 ตรวจสอบความลึกหรือระดับดินก้นหลุมก่อนหนึ่งครั้ง เมื่อระดับดินขุดได้แล้วจะทำการบดอัดทรายหรือกรวด เพื่อให้ดินแน่นสามารถรับน้ำหนักได้ดีขึ้น
3. 3 เมื่อบดอัดดินจนแน่นแล้วทำการตรวจสอบระดับดินที่บดอัดจนแน่นของฐานราก จากนั้นเทคอนกรีตหยาบ (lean concrete) ทับบนทรายบดอัดแน่น ความหนาของคอนกรีตหยาบเป็นไปตามแบบก่อสร้าง การเทคอนกรีตหยาบก่อนวางฐานรากจะช่วยป้องกันการกัดเซาะของน้ำใต้ฐานรากได้
3. 4 เมื่อเทคอนกรีตหยาบเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปติดตั้งแบบหล่อฐานรากจะใช้แบบหล่อไม้ หรือแบบหล่อเหล็ก หรือก่ออิฐเป็นแบบหล่อก็ได้ รวมทั้งค้ำยันให้แข็งแรง งานฐานรากที่ก่อสร้างบนดินเหนียวลักษณะเป็นดินเลน มีปัญหาเรื่องการค้ำยันและแบบเทคอนกรีตแตกควรเทคอนกรีตหยาบรองพื้น ก่อนทำการค้ำยันแบบเพื่อสามารถยึดค้ำยันให้แข็งแรง
3.
2 ถ้าเป็นอาคารที่มีน้ำหนักบรรทุกไม่มากนักหรือบ้านพักอาศัย หากพบว่าดินที่ใช้ก่อสร้างเป็นดินทราย สามารถใช้เครื่องสั่นสะเทือนกระแทกให้ดินที่จะวางฐานรากแน่นเสียก่อน จะสามารถใช้ฐานรากแบบแผ่ได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้
1. 3 ในกรณีที่ดินใต้ฐานรากเป็นลักษณะดินอ่อนไม่ควรใช้ฐานแต่ถ้าเปรากแผ่ ควรใช้ฐานรากที่มีเสาเข็มดีกว่าเพราะสามรถรับน้ำหนักได้ดีกว่า และลดการทรุดตัวเมื่อเวลาผ่านไป บางครั้งดินบางจุดแข็ง บางจุดอ่อน ซึ่งส่วนนี้ต้องระวังอาจเกิดการทรุดตัวที่ไม่เท่ากัน จะทำให้บ้านหรืออาคารพังทลายได้
2. การกำหนดความลึกของฐานราก
ความลึกของฐานรากแผ่ จะต้องพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายและความสะดวกในการก่อสร้างเป็นหลัก
เพราะถ้าฐานรากมีความลึกมาก ๆ ทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการขุดดินแล
ะขั้นตอนการก่อสร้างจะทำได้ลำบาก โดยประมาณความลึกของฐานรากจากผิวดินควร
น้อยกว่าหรือเท่ากับความกว้างของฐานรากนั้น ๆ อย่างไรก็ดีอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของ
ดิน
3. ขั้นตอนการทำฐานรากแผ่
3. 1 ขุดดินให้มีความลึก ขนาด และตำแหน่งของถูกต้องตามแบบก่อสร้างโดยใช้แรงงานคนหรือเครื่องจักร ในการขุดดินนั้นต้องเผื่อการบดอัดทรายหรือกรวด เทคอนกรีตหยาบ (lean concrete) เผื่อการเข้าแบบด้านข้าง ถ้าดินมีลักษณะอ่อนตัวเป็นดินเหลวเป็นโคลน ให้ขุดดินอ่อนออกจนหมดแล้วใช้ทรายถม หากดินไม่เหลวมากให้เทคอนกรีตหยาบเพื่อรองรับเหล็กเสริมที่จะทำฐานราก หรือออกแบบฐานรากให้สูงขึ้น ในกรณีที่ดินลื่นไถลอาจขุดดินให้มีความลาดเพื่อป้องกันดินพังทลาย หรือใช้แผ่นเหล็กหรือวัสดุอื่นที่สามารถนำมาตอกโดยรอบ เพื่อป้องกันดินพังทลายลงในขณะก่อสร้างฐานรากด้วย
3.